Sunday, December 20, 2009

เมืองนี้มีความลับ The Stepford wives


เครดิตภาพ : http://www.naiin.com

"โจแอนนากับครอบครัวย้ายจากนิวยอร์กไปอยู่เมืองแสนสงบงามชื่อ " สเตปฟอร์ด " ไม่นานนักโจแอนนาก็พบว่า ชาวเมืองสเตปฟอร์ดมีนิสัยประหลาดหลายอย่าง เมืองนี้ผู้ชายเท่านั้นมีบทบาท ส่วนผู้หญิงกลับสนใจแต่เรื่องแต่งตัวสวยงาม บ้าทำงานบ้านเป็นชีวิตจิตใจเป็นภรรยาที่ดีจนโจแอนนาตกใจ โจแอนนารู้สึกว่าพฤติกรรมเหล่านี้ช่างแปลกพิกล เมืองนี้ต้องมีความลับบางอย่าง ซึ่งเป็นความลับที่อันตรายมาก"



จะบอกว่าอ่านแล้วไม่ get (--')

อันนี้ต้องขออภัยแฟนๆหนังสือเรื่องนี้ทั้งหลาย ถ้าจะบอกว่าอ่านเรื่องนี้แล้วไม่ชอบเอามากๆ
เนื่องจากว่าเราเป็นผู้อ่านประเภทติดตามเนื้อหา ไม่ได้คิดตามเท่าไหร่ ดังนั้นหนังสือที่ทิ้งให้คิดเป็นตอนสุดท้ายนี่ไม่ใช่แนวอย่างรุนแรง

ตอนอ่านแรกๆของหนังสือจนไปถึงช่วงสุดท้ายเลยนี่ยอมรับว่าน่าติดตามมากเหมือนกัน มีปมหลายอย่างผูกขึ้นมาเรื่อยๆ แต่บทสุดท้ายของเรื่องกลับเป็นปมมที่ผูกแน่นขึ้นไป ไม่มีการคลี่คลายแม้แต่น้อย

อ่านถึงบรรทัดสุดท้ายแล้วถึงขั้นงง ต้องพลิกกลับไปดูคำนำสำนักพิมพ์อีกครั้ง โดยหวังว่าคงมีภาคต่อสำหรับคลายปมปริศนา ..แต่แล้วก็ต้องผิดหวัง ...มันจบไปอย่างนั้นจริงๆ ทิ้งไว้แต่ความสงสัยว่า ตกลงแล้วอะไรกันแน่ที่ทำให้ผู้หญิงทุกคนในเมืองนี้เปลี่ยนไป ??

ส่วนตัวแล้ว เราชอบเรื่องลึกลับ เพราะชอบติดตามการผูกปม และคลายปมออก ...แอบชอบติดตามตอนการคลายปมปริศนาออกมากกว่าด้วยซ้ำ เรารู็สึกว่าการผูกปมขึ้นมา จะไร้เหตุผลยังไงก็ได้ ไม่น่าเชื่อยังไงก็ได้ แต่ถ้าไม่มีการคลายปมออก ทุกอย่างมันก็เป็นแค่จินตนาการที่ไม่เกิดขึ้นจริง ไม่จำเป็นต้องคิดอะไรมาก ...แต่ถ้าเรื่องไม่น่าเชื่อพวกนั้นมีการคลี่คลาย ...เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดจะดูน่าทึ่งขึ้นมาทันที

สุดท้ายนี้ อาจจะเป็นเพราะว่าเราอ่านเรื่องนี้ด้วยความคาดหวังว่าความลับทุกอย่างจะถูกเปิดเผย เลยทำให้ผิดหวังพอสมควร แต่ถ้ามองในแง่จิตวิทยาของการอยู่ร่วมกันในสังคม ก็ยอมรับว่าเรื่องนี้มีแง่คิดอะไรหลายอย่าง.. ถ้าชอบอ่านหนังสือประเภทต้องคิดตามเยอะๆ เล่มนี้ก็เป็นอีกเล่มที่สามารถไปวิเคราะห์ต่อยอดได้อีกเยอะจริงๆ

ความลับ (Himitsu)


เครดิตภาพ : http://variety.teenee.com

ไม่ได้เขียนเกี่ยวกับหนังสือมานาน แต่อ่านเล่มนี้จบแล้วถึงขั้นทนไม่ได้ต้องมาอัพบล๊อกอย่างด่วน!!!

"เฮซึเกะต้องพบเรื่องเหลือเชื่อ เมื่อนาโอโกะ ภรรยากับโมนามิ-ลูกสาวของเขาประสบอุบัติเหตุ นาโอโกะเสียชีวิต แต่เมื่อโมนามิฟื้นขึ้นมากลับพบว่าวิญญาณในร่างของเธอคือ นาโอโกะ ความลับที่ไม่อาจเปิดเผยให้ใครรู้จึงเริ่มต้นขึ้น

เมื่อเฮซึเกะต้องใช้ชีวิตร่วมกับภรรยาซึ่งอยู่ในร่างของลูกสาวและนาโอโกะมี โอกาสได้เลือกชีวิตวัยรุ่นของเธอใหม่อีกครั้ง เขาและเธอจะดำเนินความสัมพันธ์ต่อไปกันอย่างไร..ขณะที่ต้องเก็บความลับอัน ยิ่งใหญ่นี้ไว้ "

ซื้อเล่มนี้มาซักพักใหญ่ๆแล้ว แต่ไมไ่ด้อ่านซักที เมื่อ 2 วันก่อนหยิบขึ้นมาอ่าน รวดเดียวจบแบบวางไม่ลงเลย

เนื้อเรื่องบรรยายไปอย่างเรื่อยๆ บรรยายชีวิตประจำวันของคน 2 คนตามปกติ แต่น่าติดตามอย่างไม่น่าเชื่อ บางครั้งอ่านแล้วไม่เข้าใจความรู้สึกของตัวละคร แต่ก็มีเรื่องทางจิตวิทยาสอดแทรกบอกที่มาที่ไปมาเป็นระยะๆจนไม่ได้ทำให้รู้สึกไร้เหตุผลจนเกินไป

ถึงแม้เรื้อเรื่องจะเรื่อยๆ แต่ก็บรรยายถึงวิวัฒนาการทางความคิดของคน 2 คน ที่ต้องเผชิญสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างโหดร้่ายได้อย่างดี

บอกตามตรงว่าอ่านมาถึงกลางๆเรื่องยังไม่ชอบนางเอกเท่าไหร่ ยังชื่นชมพระเอกอยู่ แต่พอจบสุดท้ายของเรื่องนี่ชื่นชมนางเอกอย่างรุนแรง (เรื่องสงสารนี่ไม่ต้องพูดถึง ... ผู้เขียนกับผู้แปลบรรยายความรู้สึกของตัวละครเอกทั้งหมดได้ดีมาก)

อ่านเรื่องนี้จบไปแล้วนั่งร้องไห้อยู่พักใหญ่ (อินจัด) ขนาดตอนนี้มาอัพบล๊อกน้ำตายังซึมเลยเนี่ย (^^')

Saturday, December 19, 2009

กระบี่ Outing 09 (3/3)

มาถึงตอนสุดท้ายละ
ตอนแรกเช้านี้บอกแมกซ์ว่าจะตื่นเช้าไปถ่ายรูปรีสอร์ทกัน ... แต่ไม่ตื่นครับท่าน .... แมกซ์เลยออกไปถ่ายกับพี่นุช + คุณตุ๋มแทน เหอๆๆๆ (บอกแล้วว่าทริปนี้ไม่ได้ถ่ายรูปอะไรเองเลย)

ดูบรรยากาศรีสอร์ทต้อนรับเช้าวันใหม่ไปก่อนนะ


ตรงนี้เป็นห้องอาหาร
เรากินข้าวเช้ากันที่นี่แหละ


ข้างๆเป็นห้องพัก


สระว่ายน้ำ


ถ่ายจากมุมบนออกไปเห็นทะเล


พี่แชทชิลมาก
(วันนี้พี่เค้ากลับก่อน ไม่ไปเที่ยวตอนเช้าด้วย เลยไม่ต้องรีบ)

เช้านี้เราไปพายเรือคายัคกันที่อำเภอบ่อลึก
เราไปพายเข้าถ้ำ 2 ถ้ำ ดูป่าโกงกาง แล้วก็เที่ยวถ้ำผีหัวโตกัน


พายกันไปเรื่อยๆ

เข้าถ้ำๆๆ (ถ้ำลอดมั้ง)


บรรยากาศภายในถ้ำ

อยู่กับเจ้่านายต้องพายอย่างขันแข็ง
(คู่หลังนิ่งสนิท ปล่อยเรือไหลตามน้ำ 555)


แดดแรงมาก


ปูก้ามดาบบริเวณป่าโกงกาง
ท้อปอยากถ่ายมากเลยลงเรือไปถ่ายใกล้ๆ

จุดหมายสุดท้ายของที่พายเรือคายัคกันมาสิ้นสุดที่ถ้ำผีหัวโต
จุดเด่นของถ้ำนี้อยู่ตรงภาพเขียนสีที่ชัด และเยอะมากพอสมควร


หน้าถ้ำ (รูปนี้ดูตัวยืดดีจัง)



ภาพเขียนไฮไลท์ เชื่อว่าเป็นภาพพวกหมอผีหรือผู้ประกอบพิธีกรรมในยุคนั้น


ออกมานอกถ้ำ(อีกฝั่งนึง) มองออกไปเห็นวิวป่า สวยมาก


ขากลับนี้่ไม่ต้องพายกันเองละ นั่งเรือใหญ่กลับกันมาเลย

เรือน้อยๆก็ผูกตามกันมา

กินข้าวมันที่นั่นแหละ (หิวมากแล้ว)

จบโปรแกรมนี้ เราก็กลับไปอาบน้ำอาบท่าที่โรงแรม เตรียมตัวกลับบ้านกันได้


อีกซักรูปที่ lobby โรงแรม

ก่อนจะกลับกรุงเทพ ไปแวะสุสานหอยกันซักแปป


บรรยากาศร่มรื่น (แต่ไม่ค่อยมีอะไรให้ดู)

อยากดูซาก ก็ดูกันชัดๆที่นี่แหละ

จบแล้่วสำหรับกระบี่ แต่คาดว่าคงได้กลับมาอีกแน่ 555 มีอีกหลายเกาะที่น่าไป (ใช่มะ ??)
ขอบคุณ Claris ที่ให้ไปเที่ยวด้วยนะคะ (^^)

กระบี่ Outing 09 (2/3)

เดิมทีวันนี้พี่ไกด์นัดตอน 10 โมง แต่เนื่องจากเราพักอยู่แถวๆ Phulay Bay รีสอร์ทสุดหรูที่พี่ปุ้ยมาออกแบบ landscape ให้ พี่ปราโมทย์เลยอยากไปดู น้องๆอยากไปด้วย เราก็เลยมีโปรแกรมพิเศษแทรก ต้องออกจากโรงแรม 8.30 แทน

ขับรถออกจาก Amari ไปไม่ถึง 5 นาทีก็ถึงที่หมาย
เิ่อิ่มมมม หะ-รู จริงๆ ไม่รู้จะบรรยายยังไงดี ดูรูปเอาละกันนะ

ชื่อแบบเต็มยศของที่นี่คือ Phulay Bay, A Ritz/ Carlton Reserve คร่าวๆก็คือว่า ที่นี่เป็นที่พักแบบReserve ในเครือโรงแรมสุดหรูของ A Ritz/Carlton โดยรูปแบบของ Reserve คือ reserve คนไว้บริการคุณ อะไรประมาณนี้แหละ concept ก็คือว่าเข้าไปพักผ่อนได้เต็มที่ อยากได้อะไรเพียงแค่โทรมาที่เบอร์กลาง แล้วบริการทั้งหลายแหล่จะไปหาคุณถึงที่ (พร้อมจะมีบริการทุกอย่างที่คุณต้องการ)

แปลว่า เค้าต้องเตรียมคน เตรียมของไว้มากพอกับบริการทุกอย่างที่ลูกคัาต้องการ ค่าที่พักจึง โค-ตะ-ระ แพงเลย


ทางเข้าก็อลังการใช่ย่อย


ทางเข้าที่พักด้านใน


ยังกะหลุดมาในเขาวงกต


ห้องพักห้องแรกที่เราเข้าไปเยี่ยมชม
ราคาถูกสุด ตกห้องละประมาณ 2-3 หมื่น ++
(นอนกัน 2 คน แต่เตียงใหญ่ขนาดนอนได้ 4-5 คนสบายๆ)


อ่างอาบน้ำ (ของห้องที่ถูกที่สุดอยู่)


ถัดมาห้องที่แพงขึ้นมาหน่อย
ยังคง concept เตียงขนาดบิ๊กเบิ้มเหมือนเดิม


แต่ห้องน้ำไฮโซขึ้นหลายขุม


ระหว่างทางเดินไปห้องพักสุดท้ายที่ราคาแพงที่สุด (โคตรไกล)


โฉมหน้าห้องพักสุดท้าย
ราคายังไม่แน่นอน แต่อาจจะคืนละเป็นแสน (อ๊ากกกกกก)

ที่สุดท้ายนี่ถ่ายรูปมาไม่ได้กึ่งนึงของความอลัง เพราะว่าโดยรอบห้องพักนี่มีระเบียง บ่อน้ำ ฯลฯ อลังการมาก ..ด้านหลังฉากหลังเตียงนอนนี่...เลี้ยวซ้ายแรกเป็นอ่างอาบน้ำในห้องอย่างหรู เลี้ยวซ้ายที่สองเป็นมุมแต่งตัว ตรงไปทะลุไปด้านหลังมีสวนหย่อมเล็กๆ กับที่อาบน้ำกลางแจ้ง ...ไม่รู้จะหรูไปถึงไหน

หลังจากทัวร์จบ ก็คิดว่าโชคดีแล้วที่ได้เข้ามาดู ... เพราะไม่งั้นคงไม่มีโอกาสมาแน่นอน เหอๆๆ~~~




เอาล่ะ ...ทีนี้ก็กลับมาสู่โปรแกรมเที่ยวของเราต่อ
วันนี้มีแต่ดำน้ำๆๆๆๆๆ ไปที่ไหนมามั่งก็แอบจำไมไ่ด้ (ไปทะเลทีไรอย่างนี้ทุกที ไม่รู้เกาะไหนเป็นเกาะไหน)

จุดหมายแรกเป็นทะเลแหวกซักที่ ที่มีเกาะไก่ กับเกาะอะไรไม่รู้อีก 2 เกาะ
ตรงนี้เราเดินเล่นเลาะริมหาดกันเฉยๆ ไม่ได้ดำน้ำ


พลพรรค Claris มีแค่นี้แหละ
จริงๆต้องตัด 2 คนที่ลาออกไปแล้ว

ปล. เที่ยวครั้งนี้สาวๆเยอะที่สุด เพราะว่าเดิมทีมี consult ผู้หญิงอยู่ 3 คน กลางปีลาออกไป 2 พี่ๆเลยรีบรับผู้หญิงอย่างด่วนมาอีก 3 !!! พอมารวมกัน ทริปนี้เลยสาวๆเพียบบบบ


น้ำทะเลใส๊ ใส

จบจากเกาะนี้ก็ไปเดินเล่นกันอีกเกาะ


เกาะนี้คนเยอะ (ในโปรแกรมเขียนว่าเดินเล่นที่อ่าวมาหยา ไม่รู้ใช่รึเปล่า)

บรรยากาศดีจนต้องไปซื้อเบียร์มาซด




ใครใคร่ตากแดด เชิญหัวเรือ


จุดนี้แหละ เริ่ม snokkle กันได้แล้วววว

หนุ่มๆโดดกันเลยอยากโดดมั่ง (ไม่เคยโดด แต่รู้สึกว่าน่าหนุก)
พอบอกแมกซ์ว่าอยากลองโดดเท่านั้นแหละ ปฏิเสธไม่ได้อีกแล้ว
ออกมาท่าทุเรศ 555
คุณแมกซ์เลยโชว์ซะ .... จะไปคัดตัวนักกีฬาโดดน้ำหรือไงเนี่ย


เตรียมขนมปังมาให้ปลาตอด


สาวๆขอดำน้ำอย่างสงบ 555

กว่าจะได้รูปนี้ ...แทบตาย
ดำลงไปได้แปปเดียว ลอยละ


รูปนี้ให้แมกซ์กดตัวลงไปลึกๆ ดีขึ้นหน่อย


นีโมน่าร๊ากกกกก


ซูมกัลปังหาชัดๆเลย


ดำไป 4 รอบมั้ง ...ขึ้นเรือปุ๊บ หลับปั๊บ 555
พี่ปราโมทย์บอกว่า จะให้ social จัดเล่นกีฬาบ่อยๆ เหนื่อยกันง่ายเหลือเกินนนน

ที่ต่อไปจะไปที่เกาะห้อง ..คนเรือบอกว่าปลาดาวเยอะ แต่เรามองลงไปไม่เห็นซักตัว เลยไม่มีคนลงไปซักคน ...สุดท้ายคนเรือดำลงไปเอาปลาดาวขึ้นมาให้ดูตัวนึง (เค้าบอกว่าเอาขึ้นบกมาได้เป็นวัน มันไม่ตาย)


วิวสวยมาก ขอรูปหมู่อีกแช๊ะ
ปล. outing ครั้งนี่ รูปรวมเยอะที่สุดตั้งแต่ไป outing มา


ขอสวีทนิดนึงนะ (^^)


ปลาดาวที่คนเรือจับมาให้ดู
นั่งดูมันเดินแปปนึงก็ปล่อยลงทะเลไป

เหลืออีก 1 ที่ ... ต่อๆๆๆ
ตรงนี้น้ำเชี่ยวมากกกกกก ขอบอก แบบว่าโดดน้ำลงไปแล้วลอยไปเลย กว่าจะว่ายกลับมาที่เรือได้แทบตาย

ตอนแรกแค่ประคองตัวไว้ไม่ให้ลอยไปไกล พอชักจะไม่ไหวเลยขึ้น แต่ขึ้นมาแล้วเค้าบอกว่าไกลๆสวย เลยลงไปอีกรอบนึง ...กว่าจะว่ายกลับมาที่เรือได้ ...แทบตายยย (เหนื่อยมาก!!!)


โดดน้ำส่งท้าย


เห็นน้ำอย่างนี้ เชี่ยวมากกกกกนะ


บรรยากาศยามเย็น ..แสงสวยมากๆๆ
(ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคิดถึงลูกอยู่)

มื้อเย็นคราวนี้ยอมลงทุนนั่งรถจากที่พักไปร้านอาหารชื่อ ต้นม่วงๆ 3 ต้น (ท้อป recommend บอกว่าอร่อยมาก) .... ไม่ผิดหวังจริงๆ อร่อยมากกกกก แต่เผ็ดมากเหมือนกัน สะใจอย่างแรง


อาหารเต็มโต๊ะ (แต่หมด)


ปิดท้่ายด้วยไปเดินตลาดเล็ก ซื้อของหวานกินต่อ 555
ตอนนี้กำลังรุมไอติม

หมดวันละ ...แอบอยากนอนนานๆๆๆ แต่พรุ่งนี้มีพายคายัคต่อแต่เช้า (Y_Y)