Tuesday, August 26, 2008

หินตกริเวอร์แคมป์ กาญจนบุรี

หินตกริเวอร์แคมป์ - ช่องเขาขาด กาญจนบุรี
(อันนี้ไปมาตอนพฤษภาคม 2550)

วันนี้พาไปเที่ยวกาญจนบุรีกับเซนต์โย (ตั้งกะจบม.ปลายมานี่เหมือนอันนี้เป็นทริปแรกเลยมั้ง ..นานมั่กๆๆ)

ตอนแรกแมกซ์จะมาด้วย แต่ว่าดันติดงานซะนี่ เลยมาไม่ได้ซะงั้น (เสียดายจัง)

เช้าวันนี้นัดเจอกันที่เซนต์โยก่อน ...ตอนแรกว่าจะเข้าไปนั่งรอในโรงเรียน แต่ว่าตั้งกะเกิดคดีไล่แทงเด็ก ท่าทางพี่ยามจะเคร่งเป็นพิเศษ สุดท้ายก็เลยเดินไปเดินมารออยู่หน้าโรงเรียนเนี่ยแหละ (อะไรๆมันเปลี่ยนไปเยอะเหลือเกิน)

แหม่มสั่งไว้ว่าห้ามกินข้าวเช้า เพราะเช้านี้เราจะไปกินกันที่ตลาดดอนหวาย..พอไปถึงตลาด แหม่มก็พสไปร้านเป็ดพะโล้ชิ่อดัง (รึเปล่า) แล้วก็ให้เวลาเดินซื้อของกินกันอย่างเมามันส์ ต้องย้ำกันเยอะๆว่าห้ามซื้อเผื่อ ไม่งั้นมันจะกินไม่หมดเอา ... แต่ของกินมันยั่วน้ำลายใช่เล่น เห็นแล้วอยากกินไปหมด (เสียดายไม่ได้เอากล้องลงไปด้วย)

กินเสร็จ ซื้อเสร็จ (แต่ละคนหอบของขึ้นรถกันใช่ย่อย) ตอนนี้ต้องนั่งรถนานหน่อย ก็หลับกันซะ.... ป๊อปซื้อขนมตาลป้าไข่มา 3 ถุง (ซื้อมาโคตรเยอะ) พยายามชวนเพื่อนๆกิน แต่ไม่มีใครกิน (จริงๆกินไปแล้ว แต่มัีนซื้อมาเยอะจัด เลยไม่หมดซักที) มันเลยตั้งหน้าตั้งตากินเอาๆ จนหลับ ตื่นมาตายังไม่ลืม ยังหยิบมากินต่อเลย ...ใจเย็นๆเพื่อน เดี๋ยวเย็นนี้ค่อยกินต่อยังได้

พอเข้าตัวเมืองกาญจนบุรีแล้ว ก็ไปเที่ยวสุสานทหารต่างชาติกัน (แอบรู้แค่ว่าตรงนี้มีทหารตายเยอะช่วง WW2 แต่ไม่รู้ีอะไรที่ละเอียดๆกว่านี้แฮะ)


สุสานทหารต่างชาติ
(ปล. แอบสงสัียว่าทำไมไม่มีสุสานทหารไทยที่ดูดีๆแบบนี้มั่ง..หรือมีแต่เราไม่รู้ก็ไม่รู้เหมือนกันแฮะ)

เสร็จแล้วก็มาสะพานข้ามแม่น้ำแคว มากาญฯ แล้วไม่ไปที่นี่ไม่ด้ายยยย


ถ่ายจากประมาณที่จอดรถ


เดินข้ามสะพานต้องเป็นแถวตอนเรียงหนึ่งเท่านั้น !!!!
ปล. เห็นเค้าเดินข้ามกันเลยข้ามมั่ง แต่ก็ไม่เห็นมีไร ...เดินไปสุดแม่น้ำ ก็เหมือนมีเป็นที่พักยื่นออกมาให้ถ่ายรูปเฉยๆ แต่มองลอดกล้องไปก็มีแต่ต้นไม้

แต่มาทั้งที มันก็ต้องข้ามแม่น้ำแหละเนอะ~~~

เดินถัดจากสะพานมาหน่อยก็เป็นวัด (กึ่งพิพิธภัณฑ์ให้เข้าไปเยี่ยมชม)

ก็มีซากรถไฟตั้งแต่สมัยโบราณให้ดู

ภายในวัดก็มีรูปวาด รูปปั้นของเจ้านายสมัยก่อน (แอบจำไม่ได้ว่าใคร) พอเดินถัดมาอีกโซนนี่จะเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงข้างของเครื่องใช้ของทหารเมื่อก่อน แล้วก็มีบรรยายเอาไว้เล็กน้อย ... แต่ตามตรงไม่ค่อยได้ไปอ่านแฮะ แค่เห็นก็แอบหดหู่มากๆแล้ว

มีอยูมุมนึงที่แสดงพวกของใช้ส่วนตัว แล้วก็มีพวกสมุดบันทึก หรือว่าจดหมายส่วยตัว(คาดว่า)ของพวกทหาร ...เห็นแล้วสะเทือนใจบอกไม่ถูก ไม่กล้าอ่านแฮะ

เปลี่ยนเรื่องๆๆ ในรูปด้านบน ที่ตึกด้านขวามือจะเห็นว่ามีอะไรกลมๆมาประดับ ...มันคือจานล่ะ ..จานกินข้าวธรรมดาเนี่ยแแหละ แต่ไม่รู้ว่่าู่็มีความหมายอะไรรึเปล่า คือว่าแค่สวยงามเฉยๆ

พอเที่ยวจนสมควรแก่เวลา ก้เดินทางไปที่พักเลย ...คราวนี้เราไปนอนกันที่ "หินตกริเวอร์แคมป์" เข้าไปจากถนนใหญ่ลึกพอสมควร แต่บรรยากาศดี เราไปหน้าร้อนแท้ แต่ต้นไม้เยอะมั้ง เลยไม่ี้ค่อยร้อนเท่าไหร่


ที่พักเป็นเต๊นท์ ..แต่แอบไฮโซกว่ารีสอร์ทบางที่อีก (แอร์ + ห้องน้ำในตัวด้วยนะ)


บรรยากาศในที่พัก

เจ้าของที่พักบอกว่า ตามโปรแกรมพรุ่งนี้จะให้ขี้จักรยานไปใส่บาตรกัน ....แหมๆๆๆ คุณหนูๆ (หรือจริงๆเรียกว่าขี้เกียจๆ) อย่างเราและผองเพื่อนนี่คงดีใจกันหรอก ..แต่ละคนไม่ได้เตรียมมาลุยแม้แต่น้อย เลยอิดออดไม่ยอมทำ ..เจ้าของก็ไม่ยอม ต้องทำๆๆ แล้วก็บอกให้ไปซ้อมขี่จักรยานซะ

ไอ้เราดันขี่จักรยานไม่เป็น ...ซวยล่ะที่นี้ ทำไงฟระ .... ฟอร์มไปหัดขี่อยู่พักนึงแล้วไม่รอด แต่โชคดีที่มีเพื่อนที่จี่เป็นแล้วไม่รอดเหมือนกัน เพราะว่าขี่ี้บนทางลูกรังนี่มันไม่เหมือนขี่ในเมืองนะ ..ยากเอาการอยู่ ...สุดท้่าย พวกคุณหนูทั้งหลาย เลยขอบาย ไปเดินเล่นดีกว่า (พรุ่งนี้เป็นไงค่อยว่ากัน)

ปล. เราป่าวคุณหนูมากนะ แต่ยอมรับว่าแอบขี้เกียจนิดนึงอ่าาา (^^')

ตอนกลางคืนเล่นอีแก่กินน้ำกัน เรากะป๊อปเล่นด้วยกัน แล้วก็แพ้เกือบทุกตา ไอ้ป๊อปที่กินขนมตาลป้าไข่หมดไป 3 ถุงต้องบอกว่าขนมตาลพองเต็มท้องแล้วเพื่อนๆถึงยอมให้มันไม่ต้องกินน้ำได้ (ขำกันแทบตาย)

กลางคืนนอนไม่ต้องเปิดแอร์เลย ...สบายเจงๆๆๆ

ตอนเช้าตืนมาฝนตก ...เลยไม่สามารถขี่จักรยานไปใส่บาตรได้ ให้รถตู้ไปแทน เจ๊อูทำฟอร์มพูดว่าเสียดาย (แต่ดูหน้าแล้วเหมือนดีใจมากกว่านะ 555)


รถตู้พามาถึงปลายสะพานด้านนึง
เราต้องข้ามสะพานไปถวายภัตตาหารที่วัดอีกฝั่ง


วัดที่เห็นลิบๆนั่นแหละ

จะว่าไปก็เดินไกลอยู่นะ ...กลับมาหิวข้าวกันอย่างแรง ต้องรีบกินข้าวเช้่าแล้วไปเดินสำรวจช่องเขาขาดต่อ.. อิดออดไม่ได้ด้วย เจ้าของไม่ยอม บอกว่ามาทั้งทีต้องเดินไป แถมมีบอกว่า อายุก็ยังไม่เยอะ ทำไมเหนือ่ยกันง่ายจัง...เหอๆๆๆ อายเค้ามั๊ยนั่น ??

สรุปก็ต้องไปกันหมดเนี่ยแหละ ...รถพาเราไปส่งตรงพิพิธภัณฑ์ (มั้ง) เค้าก็จะมีหนังฉายให้ดู มีพวกหุ่นแสดงให้เห็นว่าอะไรเป็นอะไรก่อน แล้วก็แจกวิทยุกันคนละเครื่องแล้งก็แผนที่ (ดีเหมือนกันนะ) ประมาณว่าเอาวิทยุเสียบหูไว้แล้วเดินๆไป ...เค้าก็จะบรรยายให้ฟังเรื่อยๆ ว่าแต่ละจุดมีอะีไรเกิดขึ้น เลือกได้ว่าจะหยุด หรือจะฟังซ้ำ (ไม่ต้องหาไกด์ให้เหนื่อย)


โฉมหน้าวิทยุที่ว่า


ที่แสดงเส่นทางรถไฟ


ตลอดทางที่เราเดินนี่มีคนตายตลอด มีสุสานให้เห็็นเป็นระยะๆ


ตรงนี้คือช่องเขาขาด


จุดนี้เค้าบอกว่าถ้ามองลงไปจะเห็นเส้นทางรถไฟทั้งสา่ย (แต่เรามองไม่ออก)

จากนี้ไปก็เดินไปรอรถมารับกลับไปกินข้่าวละ ..แอบเหนื่อยเอาการอยู่ ...แก่แล้วมันเหนื่อยง่ายจริงๆแฮะ

No comments: